หัวข้อนี้ได้มาจากเพื่อนในเฟสบุ๊คครับ พอดีเขาทำการบ้านอยู่แล้วก็ลองถามผมว่ามีความคิดเห็นยังไงบ้างเกี่ยวกับหัวข้อนี้ The Impact of Imitation on Teenagers' Behavior Toward Sad Songs ผมต้องถามกลับไปก่อนเลยว่า "มันแปลว่าอะไรเหรอ" ฮ่าๆ จริงๆครับ ถ้าแปลไม่ออกก็คิดอะไรไม่เข้าเหมือนกัน เขาก็ตอบกลับมาว่า "ผลกระทบของเพลงเศร้าที่มีต่อนิสัยของวัยรุ่น" อ้า... แบบนี้ค่อยรู้เรื่องค่อยคิดอะไรออกหน่อย แต่กว่าจะเอาชนะความขี้เกียจมาเขียนได้ก็ปาเข้าไปเกือบอาทิตย์แล้ว ไม่รู้ว่าความคิดเห็นของผมจะทันได้เป็นประโยชน์ต่อการบ้านของเขาหรือเปล่า ขอโทษด้วยนะครับเพื่อนตนกล้า เอาเป็นว่าอ่านเอาม่วนแล้วกันน่อ
สำหรับเพลงไทยในปัจจุบัน ถ้าลองสังเกตดูแล้วประเมินด้วยสามัญสำนึก ผมคิดว่าไม่ต่ำกว่าร้อยละ90 ที่จะมีเนื้อหาเกี่ยวกับการไม่สมหวังในความรัก เอ คนเรานี่ก็แปลกเนาะ! เพลงม่วนๆ ชวนรื่นเริงไม่ค่อยนิยมกัน กลับชมชอบเพลงที่ทำร้ายซ้ำเติมหัวใจกันจริงๆ เวลาอกหักมาก็ต้องหาเพลงแนวอกหักฟัง เพลงไหนฟังแล้วเนื้อเพลงคล้ายสิ่งที่ตัวเองเจอก็จะบอกว่า "ใช่เลย! โดนว่ะ!" ฟังแล้วอยากร้องไห้ แต่ก็ฟังแล้วฟังอีก บางคนฟังจนไม่รู้จะร้องไห้ยังไงแล้วเลยฆ่าตัวตายแม่มันสะเลย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าที่วัยรุ่นฆ่าตัวตายกันน่ะ ส่วนหนึ่งมาจากเพลงเศร้านะรู้มั้ย แต่ผมไม่ได้โทษคนแต่งเพลงหรือร้องเพลงหรอกนะครับว่าเป็นต้นเหตุให้วัยรุ่นฆ่าตัวตาย เขาก็แค่สร้างงานที่ตอบสนองอารมณ์บางมุมของคนเรา อยู่ที่ว่าใครจะเอาไปตอบสนองอีท่าไหนต่างหาก แต่เรื่องฆ่าตัวตายเพราะเพลงเศร้านั้นผมไม่ขอกล่าวถึงมาก เพราะไม่มีข้อมูลเชิงสถิติหรือประสบการณ์ใดๆ แค่เกริ่นเป็นน้ำจิ้มเท่านั้น ที่เป็นไฮไลท์จริงๆที่ผมอยากกล่าวถึงเลยก็คือ พระเอกMV syndrome
เมื่อห่างจากรบ คนเราก็หันมารักกันมากขึ้น แต่ทว่าการรักของวัยรุ่นสมัยนี้กลับพิศดารมากขึ้น รักแบบยอมเป็นฝ่ายเจ็บปวดโดยไม่จำเป็น! ผู้ชายบางคนแอบปิ๊งสาวคนหนึ่ง แต่ไม่กล้าทำอะไรกลัวเธอรู้ "เราแค่รักเธอแบบห่างๆอย่างนี้ ก็มีความสุขแล้ว" ประโยคนี้ทำให้นึกถึงMV เพลงที่ทำออกมาเกลื่อนตลาดขึ้นมาทันทีเลย โอเคอาจจะปลอบใจตัวเองได้ว่าแค่นี้ก็มีความสุขแล้ว แต่ถ้าลึกๆล่ะรู้สึกอย่างไร ผมมั่นใจว่ามันต้องมีเจ็บจึ้กๆอยู่เป็นแน่ ยอมเจ็บอย่างห่างๆแล้วปลอบใจตัวเองว่ามีความสุข แทนที่จะเข้าไปจีบ เข้าไปทำความรู้จักแบบเป็นธรรมชาติ คงเป็นพฤติกรรมของโรค พระเอกMVsyndrome แล้วพฤติกรรมของโรคนี้อีกอย่างหนึ่งก็คือ มักจะทำดีกับผู้หญิงที่ตัวเองรักแบบว่าดียิ่งกว่าเคยทำให้กับแม่ของตัวเองเป็นไหนๆ กระเป๋าเธอถือเองได้ก็จะแย่งถือ ประตูที่ขวางหน้าเธอทุกบานก็จะแย่งเธอเปิดให้หมด เธออยู่ที่ไหนก็พร้อมจะอยู่ที่นั่นกับเธอตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงกับอีกสามสิบนาที(แล้วแม่เอ็งไปไหนแล้วล่ะ บักหำ!) แล้วผู้ชายกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นฝ่ายอกหักถูกผู้หญิงทิ้ง ในที่สุดก็ได้เป็นพระเอกMV สมใจ แต่อย่าลืมนะครับ ว่าพระเอกในMVน่ะ เขาอกหักแบบได้สตังค์ ดูดีและมีผู้ชมผู้ฟังทางบ้านคอยเห็นใจอีกเป็นหมื่นเป็นแสน แต่พระเอกMV ในชีวิตจริงอย่างพวกคุณน่ะ ไม่มีใครเขาสนใจเท่าไหร่หรอก เขาก็เห็นคุณเป็นหนึ่งในคนป่วยโรค พระเอกMV syndrome เหมือนวัยรุ่นคนอื่นๆ และถ้าผ่านชีวิตช่วงนี้จนกลายเป็นผู้ใหญ่ โดยมากโรคนี้จะหายไปเองตามประสบการณ์ชีวิต แต่สำหรับบางคนอาจจะยังเป็นอยู่ตลอดชีวิตก็ได้
MV เพลงเศร้าที่เห็นได้จนเกร่อในสมัยนี้ผมว่ามันเป็นเหมือน Protocol ที่ฝังลึกเข้าไปในจิตใต้สำนึกของวัยรุ่นหลายคน คอยกำหนดฤติกรรมที่จะแสดงออกเวลาเกิดความรู้สึกชอบในเพศตรงข้าม และในจิตใต้สำนึกนั้นก็โหยหาการผิดหวังในความรักโดยไม่รู้ตัว รักเธอเท่าฟ้า รักตัวเองเท่าขนหมา จะเห็นได้ว่าผมยกตัวอย่างผู้ชายเป็นส่วนใหญ่ เพราะผมเป็นผู้ชาย และเคยเห็นผู้ชายกลุ่มที่เป็นโรค พระเอกMV syndrome มาหลายคน สำหรับ นางเอกMV syndrome ก็อาจจะมีบ้างนะ แต่คงไม่เยอะเท่า พระเอกSyndrome
ท้ายนี้ผมอยากจะฝากไว้ว่า พระเอกMVน่ะปล่อยมันเศร้าไปเถอะ สำหรับพระเอกในชีวิตจริงอย่างพวกเราน่ะ เราเลือกได้ว่าจะมีความสุข เราไม่ต้องมาคอยอ้อนง้อขอความรักแบบพระเอกMVหรอก พระเอกอย่างเราน่ะ ต้องฝ่ายรักตัวเองให้มากๆแล้วเผื่อแผ่ความรักไปยังเธอคนที่เราคิดว่าใช่ จริงไหมล่ะครับ
แต่ท้ายที่สุด อย่าลืมแม่ของตัวเองนะ ( บักหำ!!)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น