"ห้ามใครแตะต้องศพเด็ดขาด" ผมสั่งอย่างเฉียบขาดไม่แพ้คำว่าเด็ดขาด
ผมและเพื่อนร่วมคณะถ่ายทำหนังสั้นแนวสยองขวัญอีกสี่คนยืนล้อมรอบอดีตเพื่อนผู้หนึ่ง ที่บัดนี้นอนคว่ำหน้า ด้ามมีดปักโชว์หราอยู่กลางหลัง ของเหลวสีแดงไหลเป็นทางไปตามพื้น โต๊ะอาหารถูกดันไปจากตำแหน่งเดิม ดูได้จากรอยครูดกับพื้นไม้จางๆ คงเป็นจังหวะที่จิมมี่ล้มลงตอนโดนแทง บนเตาแก๊สมีหม้อสปาเก็ตตี้เพิ่งทำเสร็จหมาดๆ นุ่มเพื่อนสาวร่างสูงโปร่งร่างสั่นสะท้าน รีบผละวิ่งออกจากห้องครัวไปทันที เธอคงทำใจไม่ได้ที่ได้เห็นคนถูกฆ่าตายจริงๆเป็นครั้งแรก และคนๆนั้นก็เป็นแฟนหนุ่มของเธอ
"ให้ตาย! บ้าชะมัด บ้า บ้า บ้า!" ท็อปเริ่มหยิกทึ้งผมตัวเอง เดินไปเดินมา
"ใครเป็นคนทำวะเนี่ย" โตร้องถามในสิ่งที่คนรู้คงไม่อยากตอบ
"มีโจรแอบเข้ามาหรือเปล่า โอ้! ฉันว่าเราควรจะโทรแจ้งตำรวจ" เชอร์รี่ว่า
"โจร!" โตทวนคำอย่างตื่นตระหนก "ไอ้ท็อป เอ็งรีบไปดูนุ่มเร็ว อยู่คนเดียวเธออาจจะโดนทำร้ายได้นะเว้ย"
"เอ็งก็ไปเองสิวะ มาใช้ข้าทำแมวอะไร!" ท็อปโวย
"เดี๋ยวฉันไปดูให้เอง" เชอร์รี่ก็ปลีกตัวออกจากห้องครัวไป โตเอาโทรศัพท์มือถือออกมากดโทร แต่แล้วก็บ่นออกมา "บ้าชะมัด แถวนี้ไม่มีสัญญาณเลย"
"ทำยังไงกันดีล่ะทีนี้" ท็อปถาม
"เราควรอยู่รวมกันไว้ก่อน แถวนี้อาจมีโจร" โตเสนอแนะ
"ไม่มีโจรที่ไหนหรอก" ผมพูดขึ้นอย่างครุ่นคิด โดยอาศัยประสบการณ์การเขียนบทฆาตกรรมสืบสวนสอบสวนมาก่อน เพื่อนสองคนหันมามองหน้าผมเป็นเชิงถามไถ่ว่ารู้ได้อย่างไร "ทางเข้ามีแค่ด้านหน้า ต้องผ่านห้องนั่งเล่นที่พวกเรานั่งดูหนังกันอยู่ อีกอย่าง จิมมี่โดนมีดเสียบเข้าข้างหลัง โดยไม่ทันตะโกนขอความช่วยเหลือ แสดงว่าคนที่แทงจิมมี่ได้ต้องเป็นคนที่จิมมี่ไว้ใจ"
"เอ็งหมายความว่า หนึ่งในพวกเราเป็นคนฆ่าจิมมี่งั้นเรอะ" โตถามอย่างไม่เชื่อหู
"ระหว่างนี้ แต่ละคนต่างก็แวบออกมาเข้าห้องน้ำบ้าง ห้องครัวบ้าง ใครคนหนึ่งคงฉวยโอกาสนั้น แวบเข้ามาฆ่าจิมมี่ตอนกำลังทำข้าวกลางวันให้เราอยู่"
"ไอ้ท็อป เมื่อกี้เอ็งลุกไปฉี่บ่อยกว่าเพื่อนเลยนะเว้ย ท่าทางมีพิรุธ" โตว่า มองหน้าอย่างไม่ไว้ใจ
"เฮ้ย! อย่ามากล่าวหาข้า ปรกติข้าก็ฉี่บ่อยอย่างนี้อยู่แล้ว ถ้าถามว่าใครฆ่าจิมมี่ ข้าว่าเอ็งนั่นแหละ เอ็งมีเหตุจูงใจ นุ่มเลิกกับเอ็งแล้วไปคบกับมันนี่หว่า"
"ว่าไปเรื่อย ข้ากับนุ่มตกลงกันเข้าใจแล้วว่าจะเป็นแค่เพื่อนกัน ข้ายินดีกับไอ้จิมมี่ด้วยซ้ำที่มันกับนุ่มไปกันได้ดี"โตอธิบาย
"ฟังไม่ขึ้นว่ะ" ท็อปขัด "แฟนเลิกกับตัวเองมาคบกับเพื่อน เป็นใครมันก็ต้องรู้สึกรับไม่ได้บ้างล่ะวะ"
"หาเรื่องกันนี่หว่า!" โตเดินเข้าไปหาท็อป ท็อปก็ยืดอกขึ้น พร้อมจะวางมวย
"อย่าเพิ่งทะเลาะกัน ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้หรอกว่าใครฆ่า" ผมพูด โตผละออกมาจากท็อปอย่างไม่สบอารมณ์ ผมถามต่อว่า "ใครเป็นคนออกความคิดให้มาถ่ายหนังสั้นกันที่นี่"
"ฉันเอง"เสียงเชอร์รี่ดังขึ้น ทุกคนหันไปมองเด็กสาวที่เพิ่งเดินเข้าประตูมา "ฉันรู้จักกับเจ้าของบ้านหลังนี้ นานๆทีเขาจะแวบเข้ามา ฉันเห็นว่าสถานที่มันเหมาะกับตัวหนัง ไม่ต้องเสียตังค์ และวันนี้ก็วันเกิดของเธอด้วย ฉลองวันเกิดให้เธอที่นี่คงจะแจ๋วมากมาย" เชอร์รี่หมายถึงผมซึ่งเป็นเจ้าของวันเกิด " พวกเธอมีสิทธิ์สงสัยได้ว่าฉันทำ แต่โทรแจ้งตำรวจแล้วใช่มั้ย"
"แถวนี้ไม่มีสัญญาณ" โตตอบ "แล้วนุ่มล่ะ"
ทันใดนั้นเอง ผมได้ยินเสียงนุ่มหัวเราะดังออกมาจากห้องน้ำ ฟังดูเหมือนเสียงหัวเราะเพราะความขำขัน ผม โต และท็อปมองหน้ากันอย่างงุนงง
"อันที่จริงแล้วเธอมีอาการทางจิตอ่อนๆน่ะ" เชอร์รี่ในฐานะเพื่อนสนิทของนุ่ม "เห็นแฟนเป็นศพอยู่ต่อหน้า นุ่มเลยสะเทือนใจแล้วเกิดภาวะสับสนทางอารมณ์"
"นุ่มอยู่คนเดียวจะดีเหรอ" โตถามอย่างเป็นห่วง
"นั่นคือสิ่งที่เธอต้องการในตอนนี้"
"นุ่มเป็นโรคจิตอ่อนๆ แถมยังเป็นคนเจอศพคนแรกอีกด้วย นุ่มอาจจะเป็นคนทำ" ท็อปตั้งข้อสังเกต
"ไอ้บ้านี่! เอาแต่โทษคนอื่นไปเรื่อย" โตเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อ ท็อปผลักโตออก
"เอาละ!" ผมขึ้นเสียง"ตอนนี้ทุกคน มีข้อให้ถูกสงสัยว่าฆ่าจิมมี่ได้ทั้งนั้น เอาแบบนี้ เท่าที่สังเกตดูตอนนี้ยังไม่มีใครเปลี่ยนเสื้อผ้า ตอนใครคนนั้นฆ่าจิมมี่อาจมีเลือดกระเซ็นติดเสื้อได้ เราจะจับคู่กับโต เชอร์รี่จับคู่กับท็อป สำรวจดูอีกฝ่ายว่ามีรอยเลือดติดอยู่หรือไม่"
เริ่มการสำรวจ ผมสวมเสื้อยืดสีแดงเลือดหมูกับกางเกงยีน โตตรวจไม่พบรอยที่น่าสงสัย ผมตรวจโตบ้าง เขาสวมเสื้อกล้ามสีฟ้า ไม่เจอรอยเลือดบนเสื้อเหมือนกัน
"ท็อป ที่เสื้อเธอมีรอยหยดแดงๆติดอยู่นะ" เชอร์รี่พูดขึ้น
ผมกับท็อปหันไปมองในทันที ท็อปเริ่มมีท่าทีเลิ่กลั่ก กระชากเสื้อยืดสีขาวออกมาจากมือของเพื่อนสาว "นี่..นี่ ไม่ใช่หรอก นี่มันคงเป็นรอยหยดสีตอนทำงานที่คณะน่ะ ตั้งนานแล้ว"
"ไหนดูซิ!" โตเดินดุ่มๆเข้าไปดึงเสื้อของท็อปดู ใช้นิ้วสัมผัสมัน "รอยหยดแดงๆติดที่เสื้อ ยังดูใหม่ๆอยู่เลย เอ็งเป็นฆ่าจิมมี่ใช่มั้ยไอ้ท็อป!!"
"เปล่า! ข้าไม่รู้ ข้าไม่รู้ว่าเสื้อข้าเปื้อนได้ยังไง ข้าโดนใส่ร้าย"
"อย่ามาปากแข็ง!" โตตะคอก กระชากคอเสื้อ
"หลักฐานมันฟ้องว่าเอ็งเป็นคนฆ่า" ผมพูด "ทำไมเอ็งต้องฆ่าจิมมี่ด้วย"
"ข้าจะไปรู้ได้ไง ข้าไม่ได้ทำโว้ย!" ท็อปโวย
ขณะนั้นเองเสียงโทรศัพท์มือถือของผมก็ดังขึ้น ขัดจังหวะการโต้เถียงภายในห้อง ผมล้วงออกมาจากกระเป๋ากางเกง กำลังจะกดรับอยู่แล้ว แต่ทันใดนั้นผมก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ ผมกดตัดสายทิ้ง ยังไม่ใช่เวลาคุย
"โต ข้าขอดูโทรศัพท์มือถือเอ็งหน่อย"
"ทำไม.... มีอะไรเหรอ"โตเริ่มมีท่าทีอึกอัก
"ตอนแรกเอ็งบอกว่าไม่มีสัญญาณไม่ใช่เหรอ" ท็อปพูดและเริ่มลงมือค้นกระเป๋ากางเกงโตทันที โตขัดขืน ผมเลยไปช่วยล็อคเขาไว้อีกแรงหนึ่ง ในที่สุดท็อปก็เอามือถือมันออกมาดูได้สำเร็จ
"เป็นพยานนะ" ท็อปยื่นมือถือให้ผมดู "มือถือมันมีสัญญาณตั้งสามขีด"
"โต เธอตั้งใจจะไม่ให้เราโทรแจ้งตำรวจใช่มั้ย" เชอร์รี่ถาม มองเขาด้วยสายตาเสียดแทง
"เมื่อกี้มันไม่มีสัญาณจริงๆ แต่ตอนนี้มันมีสัญญาณแล้ว" โตอธิบาย
"แก้ตัวน้ำขุ่นๆ!" ท็อปเป็นฝ่ายตะคอกบ้าง
ตอนนี้ผมมองเพื่อนชายทั้งสองคน คนหนึ่งมีวัตถุพยานบนเสื้อ แต่อีกคนนั้นมีพิรุธจากการกระทำ ผมคิดใตร่ตรองดูแล้ว เพียงรอยเลือดบนเสื้ออาจจะโดนคนอื่นมาป้ายใส่ก็ได้ คดีนี้ควรชี้ตัวคนร้ายจากการกระทำจึงจะถูก
"โต" ผมชี้หน้าเขาอย่างมั่นใจ "เอ็งนั่นแหละที่เป็นคนฆ่าจิมมี่ มีอะไรจะสารภาพไหม"
ม่านตาของโตขยายออก สีหน้าพรั่นพรึงคล้ายกับเจอเรื่องตื่นตระหนกสุดขีด
"ข้าไม่มีอะไรจะสารภาพ ถ้าเอ็งอยากรู้ว่าใครฆ่า เอ็งหันไปถามคนข้างหลังเอ็ง"
ผมประหลาดใจในทันที หันหลังไปมองตามที่โตบอก
"เอ็งนั่นแหละ!!!" เสียงตะคอกแหบแห้งตอบกลับปะทะหน้าผมจนล้มหงายไปข้างหลัง
จิมมี่!! ยืนจ้องผมด้วยสองตาเหลือกขาวดุจผีจากนรก ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันใคร่เอาชีวิต เนื้อตัวเปรอะด้วยของเหลวสีแดง
วินาทีนั้นผมใจหาย เหมือนใจมันหายไปจริงๆ กลัวตัวเองจะตาย แต่ก็กลัวที่จะหายใจต่อไปจริงๆ
ผมอยากรีดร้องระบายความตื่นตระหนกครั้งนี้ออกมา แต่ส่งเสียงอะไรไม่ออกเลย ความอัดอั้นทั้งหมดกระหน่ำอัดหัวใจ เกินกว่าก้อนเนื้อขนาดเท่ากำมือดวงนี้จะรับมือไหว ผม... ผม....
บ้านเล็กกลางป่าหลังนี้เคยมีคนตาย
เหตุเกิดเมื่อนักศึกษากลุ่มหนึ่ง มาถ่ายทำหนังสั้นแนวสยองขวัญ ซึ่งเป็นโปรเจคก่อนจบการศึกษาของคณะสื่อสารมวลชน
ซึ่งในวันที่เกิดเหตุ ตรงกับวันคล้ายวันเกิดของคนเขียนบทประจำกลุ่ม
เพื่อนๆเลยวางแผนเซอร์ไพรส์วันเกิด ตามแบบฉบับหนังสืบสวน ฆาตกรรม และสยองขวัญวิญญาณอาฆาต เพื่อจะได้สมกับฐานะคนเขียนบท
เพื่อนผู้หญิงคนหนึ่ง กลัวจะหลุดหัวเราะทำแผนแตก เลยปลีกตัวออกมารับหน้าที่เตรียมเค้กวันเกิดข้างนอก
แต่แล้วเมื่อมาถึงฉากเด็ดของการแสดง คนที่แกล้งตายฟื้นขึ้นมาสร้างความตกใจ
เจ้าของวันเกิดตกใจเกินไป วิญญาณเลยออกจากร่าง วันคล้ายวันเกิดตรงกับวันตายพอดี
ถ้าถามนักศึกษากลุ่มนี้ว่า สรุปแล้ว ใครฆ่า?
คำตอบที่จะได้ก็คือ "เอ็งนั่นแหละ!!!"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น