วันอาทิตย์ที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ดูคนออก



ณ ภัตตาคารเสต็คกลางเมืองแห่งหนึ่งในยามค่ำ   ชายหนุ่มเน็กไทด์แดงผมหวีเรียบแปล้นั่งอยู่ตรงข้ามกับหญิงสาวงามเฉิดฉาย  ร่างสูง  แต่หุ่นดีมีเนื้อมีนวลคล้ายผู้หญิงฝรั่ง  ซ่อนร่างอยู่ในชุดแซคสีขาวที่ดูมีระดับ  เผยส่วนเว้าส่วนโค้งให้เห็นพอกรุ้มกริ่ม พวกวัยรุ่นเห็นแล้วอาจรู้สึกเฉยๆ  แต่สำหรับชายวัยทำงานนั้นโดนดึงดูดสายตาได้ดีนัก  พอเลิกงานผู้บริหารระดับกลางของบริษัทประกันภัยก็มาบริหารเสน่ห์ต่อ  เผยรอยยิ้ม  บรรยากาศภายในร้านสว่างไสวด้วยแสงสีแสดนวลตา ส่องถึงทั่วทุกมุมร้าน   หญิงสาวยิ้มตอบ
"คุณเลือกร้านใช้ได้เลยทีเดียว" ชายหนุ่มพูดยิ้มๆ "บรรยากาศดูดีมีระดับ  ราคาอาหารก็ไม่แพงเท่าไหร่"
"ค่ะ" หญิงสาวยิ้มอย่างอ่อนหวาน "ร้านโปรดฉันเลย  พอรู้สึกชอบฉันก็อยากแนะนำคนอื่นต่อค่ะ"
"มื้อนี้ผมเลี้ยงนะครับ"
"หารครึ่งดีกว่านะคะ" หญิงสาวว่า "เราเพิ่งรู้จักกัน ฉันถือเป็นเคล็ดค่ะ"
"ไม่เป็นไรหรอกครับ  มื้อแรกให้ผมเลี้ยง เพื่อเป็นเกียรติที่ได้รู้จักกับคนสวยน่ารักอย่างคุณ  เอาไว้มื้อหน้าค่อยเลี้ยงผมตอบก็ได้" ความจริงชายหนุ่มเน็คไทด์แดงก็กะจะเลี้ยงทุกมื้ออยู่แล้ว
ระหว่างรออาหาร  ทั้งสองจิบไวน์ประกอบการสนทนา  ในความรู้สึกชายเน็คไทด์แดง เวลาผ่านไปไวราวกับถูกเร่ง   ชายหนุ่มได้รู้จักในแง่มุมต่างๆของหญิงสาวผู้นี้มากขึ้น  เธอชื่อ เสมอใจ  เธอทำงานเป็นพนักงานธนาคาร เวลาว่างๆเธอชอบอ่านหนังสือ  ทำอาหาร  ช่วงนี้เธอกำลังคร่ำเคร่งศึกษาเรื่องการทำเบเกอรี่อยู่   นอกจากที่ทำงานแล้วเธอเป็นคนติดบ้าน   ชายหนุ่มเน็คไทด์แดงประเมินผู้หญิงคนนี้ว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงสไตล์เฉี่ยวโฉบไปมา  เธอเหมาะจะมาเป็นแม่ของลูกมากกว่าคู่ควง  ซึ่งจุดนี้ต้องใช้เวลาดูกันนานอยู่  ชายหนุ่มมักเป็นฝ่ายยิงคำถามให้หญิงสาวเล่าตัวตนออกมา  นี่คือเทคนิคประการหนึ่งที่ทำให้เขาจับจุดมัดจัดผู้หญิงหลายคนที่เข้ามาในชีวิตเขาได้  เหมือนกับการเล่นพนันที่อีกฝ่ายหงายไพ่ในขณะที่ตนคว่ำไพ่อยู่ในมือ เขาได้เปรียบเห็นๆ
"ชักจะนานแล้ว" ชายหนุ่มเหลือบดูนาฬิกา  ในความรู้สึกเหมือนผ่านไปแวบเดียว  แต่เขาดูจากเข็มนาทีในนาฬิกาข้อมือเป็นหลัก "คนในร้านก็ไม่เยอะนะ"
"วันนี้ช้ากว่าปรกติจริงๆ  แต่เดี๋ยวก็คงมาแล้วค่ะ"
พูดไม่ทันขาดคำ บริกรชายผมสั้นเกรียนร่างผอมเกร็งในเสื้อกั๊กสีแดงเดินตรงมาที่โต๊ะ เสต็กสองจานในถาดใหญ่บนมือสองข้างก็ถูกนำมาเสิร์ฟ  มันถูกวางบนโต๊ะแล้วเปิดฝาเหล็กครอบจานออก  กรุ่นไอควันจากเนื้อย่างหอมฉุยลอยขึ้นมากระทบจมูก
"ทำไมนานอย่างนี้ล่ะ" ชายหนุ่มกล่าวอย่างไม่พอใจ  "ลูกค้าก็ไม่ได้เยอะอะไร  ปล่อยให้รอจนแสบท้องไปหมด"
"ขอโทษด้วยครับ" บริกรชายค้อมตัวปะหลกๆ ยิ้มแห้งๆ
"สเต็กหมูของคุณผู้หญิงสั่งมีเดียมไป  แต่ย่างมาซะแห้งยิ่งกว่าเวลดัน  ใช้ไม่ได้เลย"
"ใจเย็นๆดีกว่าค่ะ  เรื่องแค่นี้เอง" หญิงสาวเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
"ไม่ได้นะครับ  เราเป็นผู้บริโภค เรามีสิทธิที่จะได้รับบริการที่ดี  เพราะเราเป็นฝ่ายเสียเงินให้  จะให้เราไปง้อเขาผมว่าไม่ถูก  ขอโทษนะครับ" ชายหนุ่มเลื่อนจานสเต็กของหญิงสาวเข้ามา  เอามีดของตนผ่าดูข้างในของสเต็คเนื้อ  แห้งกรังดูเห็นริ้วเนื้อเป็นซี่ๆ
"เห็นมั้ยว่ามันแห้งขนาดไหน  เอาไปเปลี่ยนมาใหม่"
"อ่า..ครับ  แต่ว่า..."
"ถ้าพูดไม่รู้เรื่อง ไปเรียกเจ้าของร้านมาคุย"
"ไม่เป็นไรค่ะ  ฉันจะทานสเต็คหมูจานนี้เอง"
"แต่ว่า..."
หญิงสาวตัดบทโดยหันไปคุยกับบริกร  "ทำงานต่อเถอะค่ะ"
บริกรชายกล่าวขอบคุณก่อนผละออกไป  ชายเน็คไทด์แดงยังอารมณ์กรุ่น แต่พอหันหน้ามามองหญิงสาว  สีหน้าของเขาก็อ่อนลง
"ขอโทษด้วยนะครับ  ผมติดนิสัยมาจากการทำงานเป็นซุปเปอร์แอดไวเซอร์ของบริษัท  เลยติดนิสัยเจ้ากี้เจ้าการกับการบริการของเด็ก"
"อย่าคิดมากเลยค่ะ  แต่ฉันว่าคุณกล้าหาญดีนะ  กล้าแสดงจุดยืนของตัวเอง"
ชายหนุ่มยิ้มอย่างภูมิใจ  ก่อนรับประทานเขาขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน  เมื่อครู่เขากระดกแก้วไวน์เพลิน ดื่มไปหลายแก้ว  ติดนิสัยกระดกแก้วเหล้ามาจากการเที่ยวกับลูกน้องทุกเย็นวันศุกร์  เขาเดินไปเข้าห้องน้ำ บรรยากาศคล้ายๆกับห้องน้ำโรงแรมสี่ดาว  ดูมีมาตรฐาน จำนวนห้องกำลังดี รองรับลูกค้าได้สบาย ทำธุระ  ล้างเมือเสร็จ เขาเดินผลักประตูออกไป เผอิญบานประตูไปกระแทกใส่ชายคนหนึ่งข้างนอกล้มลง
"ขอโทษครับๆ" ชายหนุ่มเน็กไทด์แดงกุลีกุจอออกจากประตูไปช่วยพยุงชายคนนั้นขึ้น คนที่ถูกประตูกระแทกอยู่ในช่วงวัยกลางคน เคราดก สวมเสื้อกั๊กสีดำ กางเกงยีนส์ และหมวกแก๊ปสีน้ำเงิน ดูลักษณะเหมือนก้ำกึ่งสาวกเพลงเพื่อชีวิต
"ไม่เป็นไรครับ"ชายสวมหมวกแก็ปยิ้มอ่อนโยน แต่พอกำลังจะยืนขึ้นสุดก็ทำท่าจะล้มอีก   เซไปคว้ากอดร่างชายเน็คไทด์แดง  มือเปะป่ายไปมาค่อยพยุงตัวขึ้นยืนได้ "ต้องขอโทษคุณบ้างแล้ว  ผมเป็นความดันต่ำครับ ผลข้างเคียงจาการใช้ยานอนหลับน่ะครับ ลุกยืนแต่ละทีมีปัญหาตลอด"
"ไม่เป็นไรครับ  ถือว่าเสมอกัน" ชายหนุ่มเน็คไทด์แดงพูด  ชายสวมหมวกแก๊ปหัวเราะฮ่าๆ  ก่อนขอตัวเข้าไปในห้องน้ำ  ชายเน็คไทด์เดินกลับมาที่โต๊ะ  รู้สึกถูกชะตากับชายสวมหมวกแก๊ปเมื่อครู่อย่างบอกไม่ถูก  การแต่งกายตัดสินเนื้อแท้ของคนไม่ได้จริงๆ
ลงมือรับประทาน  สนทนาไปพลาง ระหว่างนั้นก็สังเกตบุคลิกท่าทางของหญิงสาวไปพลาง  เป็นการศึกษาตัวตนของหล่อนอีกทางหนึ่ง
"ให้ผมเดานะ" ชายหนุ่มเน็คไทด์แดงเอ่ยขึ้น หลังกลืนเสต็คคำโต "คุณคงผ่านการเดทกับผู้ชายมาเยอะแล้วใช่ไหม"
"ทำไมคิดอย่างนั้นล่ะคะ" เธอหยุดรับประทาน สบตาเขา ม่านตาเธอขยาย
"บุคลิกท่าทางของคุณดูแบบว่า.." เขาพยายามหาคำอธิบาย "ไม่รู้สิ  คุณดูไม่มีความประหม่าอะไรเลย  นั่งหลังตรง  ไม่รีบและไม่ช้าจนเกินไป เหมือนถูกฝึกมาดี"
"ดูท่าคุณอ่านคนเก่งไม่เบา" หญิงสาวโน้มหน้าเข้ามาหาเล็กน้อย  รอยยิ้มจางๆเริ่มปรากฎ
"ผมทำงานกับคนนี่ครับ  และผมก็ดูออกด้วยว่าผมคงเป็นแค่หนึ่งในตัวเลือกของคุณ"
"ไม่หรอก" เธอปฏิเสธ หัวเราะระรี้ "ฉันก็ยอมรับว่ามีคนคุยด้วยเยอะ  เคยเดทกับผู้ชายมาบ้าง  แต่ก็ไม่ได้แทงกั๊กไว้เป็นตัวเลือกนะคะ  ผู้ชายเขาอยากทำความรู้จัก ฉันก็โอเค  แต่ก็ไม่เคยเจอใครที่ถูกใจเลย"
สิ่งที่หญิงสาวบอกเป็นไปตามที่ชายเน็คไทด์แดงคิดเอาไว้จริงๆ  เขาภูมิใจในความสามารถอ่านคนออกของตัวเอง  หญิงสาวคนนี้เหมาะสำหรับเป็นคู่ชีวิต  ซึ่งทุกวันนี้ไม่ได้จะเจอง่ายๆ  เขารู้ว่าขืนรีบเผด็จศึกในสองวันสามคืน เนื้อสมันจะตื่นหนีรอดกรงเล็บเสือไปได้  และเขาก็ไม่คิดจะทำเช่นนั้น  เขาเริ่มรู้สึกอยากลองทำความรู้จักใครสักคนอย่างจริงจัง  สัมผัสตัวตนจริงๆมากกว่าสนุกไปคืนๆ
สเต็กทั้งสองจานหมด  ทั้งคู่สนทนาต่ออีกครู่หนึ่งก็ถึงเวลา  ชายหนุ่มเน็คไทด์แดงยกมือเรียก
"น้อง  เช็คบิลล์ด้วย"
บริกรชายคนเดิมเดินมา  บิลล์ในถาดบอกราคาทั้งหมด  สเต็คไม่เท่าไหร่ แพงเพราะค่าไวน์มากกว่า  ชายหนุ่มเน็กไทด์แดงล้วงหากระเป๋าตังค์  นั่งล้วงอยู่สามสี่รอบค่อนยืนล้วง  จนกระเป๋ากางเกงปลิ้นออกมาว่างเปล่า  ลองล้วงอีกข้าง  เจอแต่โทรศัพท์มือถือ  เขามองหน้าบริกรชาย  มันมองตอบอย่างเย็นชาท้าทาย  เรื่องเรียกร้องสิทธิผู้บริโภคเมื่อครู่อาจได้ขึ้นอุทรณ์ต่อในชั้นศาลเตี้ย
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวฉันออกให้"
หญิงสาววางแบงค์พันลงในถาดบิลล์ บริกรชายค้อมรับอย่างนอบน้อม  ส่งรอยยิ้มเย้ยหยันให้ชายเน็คไทด์แดงก่อนเดินจากไป  เขาทรุดนั่งลงกับเก้าอี้ เหงื่อเย็นเฉียบผุดขึ้นตามใบหน้า
"กระเป๋าเงินผมหาย"
"ใจเย็นๆนะคะ" หญิงสาวกล่าวอย่างเข้าใจ "คุณอาจจะทำตกไว้ในรถก็ได้"
"ผมจอดรถไว้  แล้วค่อยต่อรถไฟฟ้ามา"
"หืมม์  หรือว่าจะโดนล้วงในรถไฟฟ้า"
ชายหนุ่มเน็กไทด์แดงคิดตาม  ก็อาจจะเป็นไปได้   ในรถไฟฟ้าที่โดยสารเบียดเสียดกัน  เปิดโอากาสให้พวกมือเบาล้วงได้สบาย  
เงินทอนมาถึงโต๊ะ  หญิงสาวทิปบริกรห้าสิบกว่าบาท  อีกหนึ่งร้อยบาทให้เป็นค่ารถไฟฟ้าของชายหนุ่มเน็กไทด์แดง  บริกรชายยิ้มเยาะอีกรอบ ทำท่าถุยน้ำลายลับหลัง  ชายหนุ่มไม่กล้าพูดอะไรใส่
"อย่าคิดมากนะคะเรื่องกระเป๋า  ลองไปแจ้งความที่โรงพักนะคะ   ถ้าเผื่อโจรใจดีมันอาจจะส่งกระเป๋ากับบัตรคืนให้  คุณจะได้ไม่ต้องไปทำบัตรใหม่ "
"ขอบคุณมากครับ  เอาไว้คราวหน้าผมจะเลี้ยงคุณคืนให้ได้"
"ค่า" หญิงสาวหัวเราะกลั้ว "อย่าคิดมากล่ะ"
ทั้งสองคนจากกันด้วยดีหน้าภัตตาคาร  ถึงวันนี้จะผิดคาด เสียหน้า  แต่ชายหนุ่มเน็คไทด์แดงก็ยังดีใจ อย่างน้อยเขาก็ดูคนไม่ผิด
------------------------------
ณ ลานจอดรถหลังภัตตาคารสเต็ก  ชายสวมหมวกแก๊ปยื่นนับแบ็งค์พันบนหลังมอเตอร์ไซต์ สนุกมือ  ระหว่างนั้นมีมือข้างหนึ่งมาสะกิดหลัง  ชายสวมหมวกแก๊ปสะดุ้งวาบคว้าเงินยัดในอกเสื้อ  พอหันขวับไปก็โดนประกบปากจูบทันที
"วันนี้ได้เยอะมั้ยจ๊ะ พี่" หญิงสาวหุ่นดีร่างสูงในชุดแสคสีขาวออดอ้อน
"มาไม่ให้สุ้มใส้เสียงเลยนะ   ไอ้นี่มันตังค์เยอะอยู่  เลือกเหยื่อใช้ได้เลยนี่"
"พี่ก็เก่งเหมือนกันแหละจ้ะ  ล้วงได้เนียนจริงๆ  ไอ้โง่นั่นรู้สึกดีกับพี่ด้วยซ้ำ"
"เอ็งต้องแต่งชุดเชยๆส่งตาหวานผู้ชายอีกกี่คนถึงจะพอวะ   ข้าเห็นแล้วขัดหูขัดตาชอบกล"
"โถ อย่าหึงไปเลยจ้ะพี่  อีกแค่สิบกว่าคนเราจะมีบ้านเป็นของเราเองแล้ว  อดทนหน่อย นะนะ นะจ๊ะ"
"เออๆ  ว่าแต่กระเป๋าของมันยังมีบัตรอะไรสำคัญๆอยู่  ส่งคืนทางไปรษณีย์ดีไหมวะ เห็นใจมัน"
"โยนทิ้งแม่น้ำดีกว่าพี่  เรื่องของมันไม่ใช่เรื่องของเรา" หญิงสาวชุดแสคขาวตอบเรียบๆ

2 ความคิดเห็น:

  1. เรื่องนี้ บอกตามตรงเลยนะครับ
    ว่า
    ผมรู้ว่าหนุ่มคนนี้ถูกล้วงกระเป๋าตั้งแต่ตอนที่เข้าห้องน้ำอ่ะครับ
    อาจเป็นเพราะว่าผมอาจจะจินตนาการมากเกินไปทำให้รู้ว่าหนุ่มคนนี้ถูกล้วงกระเป๋า
    แต่เรื่องที่ผู้หญิงนั้นหลอกผู้ชายแล้วเป็นแฟนกับคนล้วงกระเป๋า อันนี้คาดไม่ถึงครับ 5555+
    ผลิตผลงานต่อไปน่ะครับ ^^

    ตอบลบ
  2. ขอบคุณมากครับ จะผลิด(ปั๊ม)ออกมาเรื่อยๆนะครับ ^ ^

    ตอบลบ