ทั้งๆที่กินข้าวกลางวันแบบข้าวกล่องเข้าไมโครเวฟที่ซื้อจากเซเว่น
และแตงโมสองผีกใหญ่ที่ซื้อจากรถเข็นด้านหน้า
อีกทั้งสเลอปี้แก้วเล็กอีกแก้วหนึ่ง
รวมแล้วที่กินไปก็ไม่ใช่น้อยๆเลย แต่ไม่รู้ทำไมเวลาราวบ่ายสามโมงครึ่งกลับรู้สึกหิวจนแสบท้อง ยืนเลือกรสบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่บ้านอยู่พักหนึ่ง(พอดีว่าที่บ้านเปิดร้านขายของชำครับ)
เลือกได้ไวไวรสต้มยำกุ้งซองสีเขียวเพราะคิดถึงรสชาติเผ็ดเล็กน้อย มันๆและหอมกลิ่นกะทิ จับไวไวลงหม้อพร้อมกับไข่ตามขั้นตอนการต้มที่เคยชิน ทว่าตอนกำลังจะใส่เครื่องปรุงนั่นเอง ซองผงกะทิสีขาวที่ปรกติมันจะแถมมาให้ คราวนี้กลับไม่มีแถมมาในซอง คาดว่าน่าจะเกิดจากความผิดพลาดในขั้นตอนการบรรจุของบริษัท ทำให้ได้ไวไวต้มยำกุ้งที่รสชาติแสนธรรมดา แค่คำว่าธรรมดายังไม่พอ ต้องใช้คำว่า
ธรรมด๊าธรรมดา กินไปอย่างเซ็งอารมณ์นิดหน่อย พอกินเสร็จก็อิ่ม อิ่มแล้วก็ไม่เซ็งอีกต่อไป
รสชาติที่ผ่านมาไม่ได้มีความสำคัญอะไรแล้วเพราะตอนนี้อิ่ม ไอ้ตอนนี้นี่เองพลันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
จนเป็นเหตุให้ต้องมาเขียนบทความนี้ในที่สุ
ด
อันความอยากของคนเรานั้นไซร้
มีช่องทางการตอบสนองของคนเราได้หลายทางไม่ว่าจะเป็น หู ตา จมูก ลิ้น หรือ สัมผัส สำหรับผู้ชายเวลาที่แรงขับดันตามธรรมชาติมันเรียกร้อง แล้วเห็นผู้หญิงสวยเซ็กซี่ ความหื่นก็บังเกิด ถ้าหน้ามืดจริงๆจะให้เสียเงิน อ้อนวอน ไปรับไปส่ง
หรือฉุดกระชากยังไงก็ช่าง ได้หมด
ขอแค่ได้ตอบสนองความอยาก(หื่น)ที่มีอยู่ภายใน แต่พอความหื่นจบไป ระหว่างทางที่กำลังปลดเปลื้องความหื่นนั่นก็หมดความสำคัญลง ลองสมอยากแล้วถ้าผู้หญิงยังเรื่องมาก อาจจะโดนถีบตกเตียงได้
"สิ่งที่มีค่าของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่เป้าหมาย แต่อยู่ที่การดื่มด่ำไปกับระหว่างทาง"
ประโยคนี้หลายคนไม่ค่อยได้ใช้กับการทำงานหรือตามความฝันเท่าไหร่ แต่เกือบทุกคนมักจะใช้ไปกับการตอบสนองความต้องการพื้นฐานของตนเอง เรากินอาหารเพื่อให้อิ่ม แต่ก่อนจะอิ่มก็ขอดื่มด่ำกับรสชาติของมันให้เต็มที่จนเป็นที่มาของ
อาหารคำละหมื่นบาท!! เมื่อกระหายน้ำก็ขอเป็นน้ำโซดาไลม์ที่ไม่ใส่โซดาเยอะเกินไป หรือผู้ชายหลายคนที่บ่นว่าชีวิตรันทดขาดผู้หญิง ได้แต่ใช้มือช่วยเหลือตนเองไปวันๆ ทั้งๆที่ไม่ว่าจะมีผู้หญิงหรือจะมีแค่มือก็สามารถไปถึงจุดหมายแห่งการเสร็จสมอารมณ์หมายได้เหมือนกัน ความจริงการตอบสนองความต้องการพื้นฐานไม่ได้ยุ่งยากเลย มันยุ่งยากก็เพราะประโยคที่ว่า "สิ่งที่มีค่าของการเดินทางไม่ได้อยู่ที่เป้าหมาย แต่อยู่ที่การดื่มด่ำไปกับระหว่างทาง"
ทุกสิ่งในโลกล้วนมีการเปลี่ยนแปลง
มีเสื่อมสลาย วิวัฒนาการ
และพัฒนา
ความต้องการพื้นฐานของเราก็สามารถพัฒนาตัวของมันได้ เป็นไปในทางที่สุนทรีกว่าเดิม ในบางครั้งเองเราก็ไม่ได้หิวเท่าไหร่
แต่พอนึกถึงรสชาติอาหารบางอย่างแล้วอยากกินมันขนาด ก่อนที่จะดับกระหายก็ขอให้เป็นไวน์ที่มีระดับ ก่อนที่จะหายหื่นก็ขอให้ผู้หญิงที่เราปลดเปลื้องหล่อนให้ปลดเปลื้องความหื่นของเรานั้นเป็นสาวที่สวย
เซ็กซี่ เรียกได้ว่าโหยหาถึง
"ระหว่างทางอันแสนงดงาม"
แต่ก็ต้องขอขอบคุณ "ระหว่างทางอันแสนงดงาม"
เหล่านั้นที่ก่อให้เกิดศิลปะแขนงต่างๆมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เชฟกระทะเหล็ก นักเขียนรางวัลซีไรต์ สุดยอดสาวของThe girls next door และอื่นๆอีกมากมาย ล้วนมีส่วนช่วยให้โลกใบนี้มีสีสัน มีความหมายมากกว่าสัตว์เซลล์เดียวที่มีชีวิตอยู่และสืบพันธุ์ไปวันๆ และในบางครั้งศิลปะที่เกิดจาก
"ระหว่างทางอันแสนงดงาม" เหล่านั้นเอง
ก็ทำให้เราเข้าถึงและเข้าใจความหมายของอะไรหลายๆอย่าง ความหมายของโลก ความหมายของชีวิต หรือจิตวิญญาณของตัวเอง และ "ระหว่างทางอันแสนงดงาม"
ยังช่วยจุดประกายความคิดให้เขียนบทความนี้ขึ้นมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น