นวนิยายที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับบันทึกของนาย แพนด้า ชายหนุ่มอายุ 27 ปี
ที่มีรูปร่างหน้าตาคล้ายแพนด้า ทำงานเป็นนักเขียนบทให้กับบริษัทผลิตหนังแผ่นทุนต่ำ ได้ค้นพบว่าความจริงแล้วตนเองมาจากดาวดวงอื่นที่มีชื่อว่า
แพนด้า พลาเน็ต
และเขาก็สงสัยว่าน่าจะมีบางคนในโลกใบนี้มาอยู่ผิดดาวเช่นเดียวกับเขา
แพนด้าจึงคิดหาวิธีสื่อสารกับชาวแพนด้าพลาเน็ตในโลกใบนี้ ซึ่งวิธีที่เขาเลือกใช้ก็คือ
การเขียนบทหนังแผ่นทุนต่ำ
โดยแฝงความหายของการอยู่ผิดดาวและมุ่งกลับดาวบ้านเกิดของตนลงไป
เรื่องนำเสนอผ่านรูปแบบการเขียนบันทึกชีวิตประจำวัน ที่มีการดำเนินเรื่องราวผ่านการบอกเล่าแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งของตัวละครเอกที่ชื่อ
แพนด้า ร่วมไปกับการสอดแทรกความคิดเห็นของผู้เขียนที่มีต่อสังคมผ่านการระบายความคิดของตัวละครภายในเรื่อง อย่างเช่น ความคิดเห็นของเฮียเล้ง
เจ้าของบริษัทหนังแผ่นที่มีต่อรูปแบบสังคมในปัจจุบัน ความรวยความจน หรือแม้แต่ความคิดของ แพนด้า
ที่เขียนระบายในบันทึก
ผู้เขียนต้องการนำเสนอการค้นหาตัวของตัวเองให้พบซึ่งเปรียบได้กับการที่ แพนด้า
ได้ค้นพบว่าตัวเองมาจาก แพนด้า พลาเน็ต และเราสามารถอยู่ในดาวของตนเองได้ ในขณะเดียวกันก็อยู่ร่วมกับผู้อื่นในสังคมไปด้วย
โดยอาศัยการเปลี่ยนมุมมองและความคิดของตนเอง เม็ดสิวที่เป็นปุ่มสำหรับติดต่อสื่อสารกับแพนด้าพลาเน็ต ก็เป็นเทคนิคหนึ่งของผู้เขียนที่ใช้เชื่อมความเหนือจริงเข้ากับความเป็นจริง ให้อิสระกับผู้อ่านในการคิดว่า แพนด้า พลาเน็ต
อาจจะเป็นดวงดาวที่มีตัวตนจริงๆ หรือไม่ก็เป็นเพียงความนึกคิดของ แพนด้า
เป็นผลให้ผู้อ่านไม่เกิดความรู้สึกขัดแย้งกับบันทึกธรรมดาของ แพนด้า ผู้เขียนให้ความสำคัญกับความคิดของตัวละครมากที่สุด รองลงมาเป็นเนื้อเรื่องและการกระทำ ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับฉากเสียเท่าไหร่
แพนด้า เป็นนวนิยายอ่านสนุก ที่แฝงข้อคิดที่น่าสนใจ
รวมถึงมุมมองต่อสังคมของผู้เขียนที่แทรกไว้ตามเรื่องก็ชวนให้คิดตาม มีมุขตลกแบบเสียดสีแทรกไว้เป็นระยะๆทำให้อ่านแล้วไม่เบื่อ เนื้อเรื่องการตามหาพวกพ้องร่วมดาวของ แพนด้า
ดูน่าสนใจแต่ทว่ายังไม่เข้มข้นพอ
เนื่องจากผู้เขียนให้ความสำคัญกับความคิดและมุมมองระหว่างทางมากกว่าเดินตามเนื้อเรื่อง
ทำให้บางครั้งรู้สึกว่าเนื้อเรื่องดำเนินอย่างเอื่อยๆและหลวมๆ ขาดความน่าติดตามไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วอ่านสนุกให้ข้อคิดที่ดี และมีความเป็นตัวของตัวเองสูง
ให้คะแนน 7.5/10