วันศุกร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ตักตวงมันส์จากชีวิต

ผมชอบเปิด Youtube ดูคลิปของ Jason Mraz ศิลปินเจ้าของเพลงชาติประจำชายหาดสุดฮิตติดชาร์ตอย่าง I’m yours ท่วงทำนองสบายๆอบอุ่นหัวใจและเป็นกันเองกับโลกใบนี้  สามารถสะท้อนความเป็น Mraz ได้ดีมาก  ผมสังเกตเห็นทุกครั้งที่ออกอัลบั้มใหม่ รูปลักษณ์ของเขาจะเปลี่ยนไป  แต่ก็ยังคงความเป็น JM อยู่ลึกๆ   ตั้งแต่อัลบั้มแรกที่ใส่หมวกแก๊ปสีแดงคล้ายเด็กฮิปฮอป  จนถึงอัลบั้มล่าสุดที่ไว้ผมเครา  ผมยาวหยิกประบ่าฟูเล็กน้อย  เสื้อเชิร์ตเซอๆและกางเกงยีนส์ให้ความรู้สึกเหมือนศิลปินติดดิน   มีบางคนคอมเมนต์ในYoutubeไว้ว่า “ He looks like Jesuz “ ผมไม่ดูแค่คลิปเพลงของเขาอย่างเดียว  ผมยังชอบดูคลิปทริปการเดินทางและชีวิตประจำวันของเขาด้วย  คลิปหนึ่งเขาไปนั่งเล่นกับนักดนตรีเปิดหมวกข้างถนนในฝรั่งเศส  อีกคลิปเขาไปสอนเด็กที่อูกันดาร้องเพลง “Freedom song” และอีกหลายๆคลิปซึ่งถ้าจะให้บรรยายคงต้องใช้อีกหลายหน้ากระดาษ  ทุกครั้งที่ผมมองดูเขาผมรู้สึกเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างให้ผมอยากไปค้นหาความเป็นตัวตนของ Jason Mraz  มันดูสนุก น่าค้นหา และท้าทาย  เขาทำสิ่งที่หัวใจบอกให้ทำ สิ่งที่หลายคนก็อยากทำแต่ไม่ได้ทำ  โลกที่สะท้อนมาจากในความคิดของเขามันช่างดูมีสีสัน  ผมและคนอื่นๆเองก็คงถูกดึงดูดให้อยากเข้าไปสัมผัสโลกใบนั้นบ้าง

 
สำหรับอีกคนหนึ่งที่เป็นแรงบันดาลใจอันแรงกล้าให้แก่ผมและอีกหลายชีวิตทั่วโลก  ชื่อของเขาคือ Kyle maynard แชมป์มวยปล้ำที่มีความพิเศษกว่านักมวยปล้ำคนอื่นๆ คือ เขาไม่มีแขนขาแม้แต่ข้างเดียว  ผมรู้จักKyleจากหนังสือ “ชีวิตไม่มีข้ออ้าง” ซึ่งเขาเป็นคนเขียน  ชายวัยสามสิบต้นผู้นี้ไล่ทำสิ่งที่เขาตั้งใจจะทำ  เขาสามารถทำลายสถิติโลกในการยกน้ำหนักท่าเบนช์เพรซดัดแปลง   เขาพิมพ์ได้เร็ว 50 คำต่อนาที  จับปากกาเขียนหนังสือได้เหมือนคนปรกติ  ขี่ม้า  ขับรถ  ดิ่งพสุธา  และสิ่งต่อไปที่เขาตั้งใจจะพิชิตก็คือ เทือกเขาเอเวอร์เรสต์  ประโยคหนึ่งของเขาที่โดนใจผมมากก็คือ  “ผมเชื่อว่าเราทุกคนต่างเป็นคนพิการไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง  รวมถึงการพิการทางนิสัยและบุคลิกภาพด้วย  ความพิการของผมก็แค่บังเอิญเห็นได้ชัดกว่าความพิการบางอย่างเท่านั้นเอง” ชายผู้นี้ได้พิสูจน์แล้วว่า นอกจากเป็นแชมป์มวยปล้ำแล้ว  เขายังเป็นแชมป์ในชีวิตจริงอีกด้วย  ด้วยปรัชญาอันแสนเรียบง่ายของเขา “ไม่มีข้ออ้าง” แทนที่จะมองเรื่องยากให้เป็นเรื่องท้อแท้  Kyle maynard กลับมองมันเป็นเรื่องที่ท้าทายและต้องพิชิตให้ได้  ลายสักรูปเสือที่ไหล่ของเขาสะท้อนให้เห็นตัวตนภายในที่ฉายออกมาทางแววตา

หลายคนก็คงมีหลายสิ่งที่อยากจะทำ  ตัวผมถ้าให้ลิสต์รายการก็คงได้เป็นหน้ากระดาษ  ผมอยากเต้นป๊อบปิ้งแดนซ์ได้ สามารถบีบอยลังกาเกลียวสักสี่รอบกลางอากาศ  อยากเล่นกีต้าร์ให้เทพๆไปวาดลวดลายบนเวที  อยากร้องเพลงให้เพราะๆโดนใจผู้ฟังจนน้ำตาไหลอย่าง พี่กิ๊ก Thailand got talent  อยากเป็นศิลปินแต่งเพลงง่ายๆแต่อมตะ  เขียนเรื่องสั้นฝากโลกไว้ซัก 1500 เรื่อง  เรียนให้ผ่านสบายๆพ่อแม่หายห่วง รวมถึงการได้เขียนบทความลงบล็อกอย่างสม่ำเสมอ  แต่ที่ผ่านมาผมแทบไม่ได้ทำตามที่ตั้งใจเอาไว้เลย  ผมมัวแต่เสียเวลารีเฟรชหน้าเฟสบุ๊ค  ดูคลิปเดิมๆในยูทูป  อ่านกระดานข้อความตอบปัญหาหัวใจ  ดูหนังAV หรือไม่ก็นอนอยู่บนเตียงเฉยๆแล้วคิดว่าจะทำนู่นทำนี่แต่ก็ไม่ได้ทำซักที  แล้วช่วงนี้ยิ่งมีปัญหาหัวใจก็ยิ่งกลับไปย้ำคิดอยู่กับเรื่องเดิมๆ   ชีวิตชีวาเริ่มเหือดหายไปจากชีวิต  อยากหลบหนีโลกแห่งความจริงไปนอนอุดอู้สักพัก  แต่ในที่สุดเมื่อผมตัดสินใจฝืนความเคยชินเก่าๆ  ลุกจากเตียงขึ้นมาลงมือทำอะไรบางอย่าง  ผมพลันรู้สึกได้ถึงชีวิตชีวาจากการใช้ชีวิต  แทนที่จะหมกมุ่นคิดแต่ว่า “ทำยังไงให้เขารักเราคนเดียว”  โลกนี้ยังมีอย่างอื่นให้ทำและเราก็ทำได้อีกหลายอย่าง  ผมเริ่มเข้าถึงแรงดึงดูดที่ Jason Mraz และ Kyle Maynard มีต่อผม   ตอนนี้รู้สึกว่าผมกำลังดึงดูดตัวผมเอง  สัมผัสได้ถึงความ สนุก น่าค้นหา และท้าทาย  ผมชักจะหลงรักตัวเองแล้วสิ

เขารักเราหรือเปล่าเราไม่รู้  แต่เรารักตัวเราเองได้  เรารู้และรักในสิ่งที่เราเป็น  และมุ่งมันทำสิ่งที่เรารักให้โลกรู้ว่าเรารักตัวเองมากแค่ไหน   คุณจะรักคนอื่นได้อย่างไรถ้าแม้แต่ตัวเองคุณยังรักไม่ได้  และเมื่อไหร่ที่คุณรักตัวเองได้คุณก็จะรู้ว่าชีวิตนี้มีความมันส์ให้ตักตวงอีกเยอะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น