วันพฤหัสบดีที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2553

หุ่นยนต์ vs มนุษย์ต่างดาว (เรื่องสั้นmasterpieceในใจ แบบไม่ตั้งใจ)


* เรื่องนี้ตอนที่แต่ออกมาไม่ได้หวังอะไรมาก แต่พอย้อนกลับไปอ่านดู เฮ้ย! แต่งออกมาได้ไงวะเนี่ย ถ้าใช้สมองคิดคงไม่ออกมาแบบนี้ ต้องใช้ส้นตีนคิดเท่านั้น เป็นเรื่องสั้นที่ผิวเผินดูเกรียนๆ แต่จริงๆแล้วก็แอบแฝงอะไรที่หนักสมองลงไปเหมือนกัน อยากมาแบ่งปันกันอ่านครับ*


“คุณมาจากดาวไหน”นักวิทยาศาสตร์อาวุโสถาม ขาวโพลนทั้งชุดและศีรษะ

“ดาวเคาะ”สิ่งมีชีวิตประหลาดตอบ รูปร่างคล้ายมนุษย์ แต่ผิวหนังสีเขียวโปร่งแสงดูเลือนราง เส้นขนหนาๆคล้ายหนวดบนศีรษะพันกันยุ่งเหยิง หางตาแหลม ดวงตากลมโตสีดำฉายแววเลื่อนลอย

“ดาวเคราะห์”นักวิทยาศาสตร์ขมวดคิ้ว พูดแก้ให้

“ดาวเคาะ”สิ่งมีชีวิตประหลาดยืนยันในคำตอบ

“อ๋อ...มาจากดาวเคราะห์ที่ชื่อว่าดาวเคาะ”นักวิทยาศาสตร์คลายปมขมวดที่คิ้ว

“ดาวของพวกเราบางวันก็เป็นดาวฤกษ์ บางวันก็เป็นดาวเคราะห์ เราจึงเรียกดาวของเราว่าเป็นดาวเคิกที่ชื่อว่าดาวเคาะ”

“ดาวเคิก”นักวิทยาศาสตร์ขมวดคิ้วอีกครั้ง “คำๆนี้ไม่เคยมีบัญญัติในพจนานุกรมดาราศาสตร์เล่มไหนเลยนะ”

“ชาวดาวเคาะไม่มีพจนานุกรม” มนุษย์ต่างดาวตอบ “พวกเราเปิดกว้างให้ทุกคนสามารถนิยามคำใหม่มาใช้ร่วมกันได้”


“เอาล่ะครับท่านผู้ชม ที่ท่านกำลังรับชมอยู่นี้คือสิ่งมีชีวิตจากนอกโลกของแท้ บัดนี้ทฤษฎีเรื่องสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่เป็นที่ถกเถียงตั้งแต่หลายร้อยปีก่อนก็ได้รับการไขข้อเท็จจริงแล้ว ยังก่อนครับท่านผู้ชม แค่นี้ยังไม่น่าตื่นตะลึงเท่ากับได้รู้ว่า พวกเขาอาศัยอยู่ในโลกของเรามากว่าหลายร้อยปีแล้ว”

ผมนั่งเอนพิงพนักโซฟาปรับระดับ สายตาจ้องมองภาพโฮโลแกรมสามมิติที่กำลังฉายรายการหยุดโลกอยู่ บนห้องพักชั้นที่ห้าสิบเอ็ดสูงเลยระดับผืนเมฆและหมอกควันไม่มีอะไรให้ทำมากนัก ผนังของตึกทำจากกระจกใสให้แสงส่องเข้ามาได้เต็มที่ แต่กรองรังสียูวีที่เป็นอันตรายได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทิวทัศน์ภายนอกนอกจากดวงอาทิตย์ยามคล้อยต่ำและผืนเมฆก็ไม่มีอะไรให้ชม ครั้งหนึ่งผมเคยคิดจะวิ่งชนกระจกให้แตกเพื่อออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ข้างนอก แต่ฉับพลันที่ร่างผมสัมผัสแผ่นกระจกมันก็โค้งงอไปตามแรงปะทะแล้วดีดสะท้อนให้ผมกระเด็นกลิ้งกลับมา ซันนี่หุ่นยนต์พ่อบ้านจอมจุ้นก็รายงานพฤติกรรมผมไปยัง ศูนย์ควบคุมดูแลผู้วิกลจริต ผลก็คือผมต้องเขารับการบำบัดที่นั่น และผมก็ให้สัญญากับตัวเองว่าจะไม่เข้าไปในนรกซังกะตายนั่นอีกเป็นครั้งที่สอง เดิมทีองค์กรควบคุมดูแลผู้วิกลจริตทำงานร่วมกันกับองค์กรกำหนดวิถีวัฒนธรรมของผม เพราะขอบเขตอำนาจในการทำงานใกล้เคียงกันจึงทำให้มักจะเกิดการก้าวก่ายทางหน้าที่การงาน ที่ผมต้องตกอยู่ในสภาพนักโทษผู้ดีเช่นนี้ก็เพราะเหตุการณ์ในครั้งนั้น ครั้งที่องค์กรของผมค้นพบภาพวาด โมนาลิซ่าสมาย ซึ่งกลุ่มอนุรักษ์นิยมผิดกฎหมายกลุ่มหนึ่งซุกซ้อนไว้นานกว่าสองร้อยปี ผมเสนอให้รัฐบาลเก็บรักษาภาพวาดชิ้นนั้นเอาไว้ แต่องค์กรควบคุมดูแลผู้วิกลจริตกลับเสนอให้ทำลายทิ้ง โดยให้เหตุผลว่าภาพวาดชิ้นนี้ก่อให้เกิดความรู้สึกที่รุนแรงของกลุ่มอนุรักษ์นิยมผิดกฎหมาย อันเป็นการถ่วงความเจริญของชาติ หลังจากนำประเด็นนี้ไปต่อสู้ในชั้นศาล ผมแทบคลั่งเมื่อศาลตัดสินให้ทำลายทิ้ง ผมอับจนด้วยเหตุผลจึงหาทางระบายออกด้วยการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมออกไป ศาลจึงตัดสินให้ผมถูกควบคุมความประพฤติโดยองค์กรควบคุมดูแลผู้วิกลจริตอย่างใกล้ชิด พวกมันเองก็คงระรี้ระริกเมื่อหัวหน้าองค์กรกำหนดวิถีวัฒนธรรมอย่างผมตกอยู่ในกำมือของมัน ซันนี่หุ่นยนต์พ่อบ้านซึ่งแต่เดิมผมสามารถใช้งานหรือสั่งให้มันทำอะไรพิเรนทร์ๆแก่เบื่อ บัดนี้ขึ้นตรงต่อองค์กรควบคุมดูแลผู้วิกลจริตไปเสียแล้ว เพียงแค่ขัดใจมันหรือทำพฤติกรรมอันใดที่คนปรกติไม่นิยมทำ ซันนี่ก็จะรายงานเจ้านายใหม่ของมัน

ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด ผมดีดนิ้วเรียกรถเข็นของว่างให้เคลื่อนที่มาหยุดข้างๆ ผมเอามือล้วงซีเรียลจากในกล่องยัดใส่ปากเคี้ยวตุ้ยๆ

“กรุณาอ้าปากแล้วกดปุ่มป้อนอัตโนมัติ”เจ้าตัวการ์ตูนหมีขั้วโลกบนกล่องร้องและวิ่งพล่านไปทั่วกล่อง

ผมเอานิ้วดีดมันสองสามทีก็ยังไม่ยอมหยุด ผมจึงคว้ากล่องเขวี้ยงลงไปที่พื้น เจ้าซันนี่ที่กำลังง่วนกับการทำความสะอาดก็หันมามอง มันคงกำลังประเมินเปอร์เซ็นต์ความผิดปรกติของพฤติกรรมของผมอยู่แน่ๆ ผมรีบทำท่าเป็นสนอกสนใจที่ภาพโฮโลแกรม

“พวกเราแฝงตัวอยู่กับชาวโลกมาหลายร้อยปี”ตัวแทนมนุษย์ต่างดาวพูด “แต่นับวันที่อยู่ของเราก็ยิ่งลดน้อยลง เราคิดว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องแสดงตนออกมาแสดงเจตนาของพวกเราให้ชาวโลกได้รับรู้”

“พวกคุณต้องการอะไร”นักวิทยาศาสตร์ถาม

“พวกเราต้องการแค่ที่อยู่ในโลกใบนี้”

“แค่นี้หรือครับ”นักวิทยาศาสตร์ย้ำถาม

“คำว่าที่อยู่ ไม่ได้หมายความว่าแค่สถานที่เพียงอย่างเดียว แต่หมายถึงการที่ชาวโลกยอมรับการมีตัวตนของพวกเราด้วย”

จากนั้นทางรายการก็ตัดภาพไปยังภาพวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ต่างดาวในซากปรักหักพังแร้นแค้น มนุษย์ต่างดาววัยฉกรรจ์กำลังใช้ก้อนหินคมๆผ่าฟืน มนุษย์ต่างดาวเพศแม่สองตนยืนคุยกันในขณะที่ต่างตนต่างให้นมลูก มนุษย์ต่างดาววัยเด็กผ่อมกะหร่องกลุ่มหนึ่งกำลังสร้างสรรค์จิตรกรรมฝาผนังด้วยคมหินและฝุ่นดินสีต่างๆ ผนังส่วนใหญ่ไม่มีที่ว่างเว้นจากงานจิตรกรรมฝาผนัง

“วิถีชีวิตของพวกเขาช่างคล้ายคลึงกับนักอนุรักษ์นิยมผิดกฎหมาย”พิธีกรออกความเห็น

จากนั้นภาพก็ตัดไปยังมนุษย์ต่างดาววัยรุ่นสองตนกำลังแกะสลักอยู่บนจุดที่สูงที่สุดของซากปรักหักพัง สูงจากพื้นราวๆแปดเมตร ทันใดนั้นมนุษย์ต่างดาวตนหนึ่งกลับเหยียบพลาดล้มไถลลื่นลงมา โชคดีที่ได้เพื่อนของเขาจับไว้ทัน แต่โชคไม่ดีซ้ำซ้อนที่เพื่อนของเขาผอมแห้งแรงน้อยจึงถูกฉุดลงมาด้วย ร่างทั้งคู่กระแทกกับพื้น มีเสียงเอะอะโวยวายเป็นภาษาต่างดาว มนุษย์ต่างดาวทุกตนในบริเวณนั้นหยุดกิจกรรมทุกอย่างแล้ววิ่งกรูกันเข้ามาดู

“ท่านผู้ชมครับ ช่างกล้องของเราบังเอิญบันทึกภาพวินาทีระทึกเอาไว้ได้”น้ำเสียงของพิธีกรรัวเร็ว แฝงด้วยอาการหอบ

ภาพตัดมาที่พิธีศพของมนุษย์ต่างดาว ทุกตนมาร่วมพิธีศพโดยการกระโดดเหยงๆไปมารอบๆหลุมศพ การกระโดดแต่ละครั้งนั้นขณะลอยตัวร่างจะเคว้งคว้างและปวกเปียกราวกับมึนเมาไร้สติ จากนั้นภาพก็ตัดไปที่นักวิทยาศาสตร์ซึ่งรับหน้าที่บรรยาย

“จากการศึกษาพบว่า พฤติกรรมเช่นนี้เป็นเทคนิคการหลอกตัวเองอย่างหนึ่ง เนื่องจากในสมัยก่อนเมื่อมีพิธีศพ มนุษย์ต่างดาวทุกตนจะมอมตัวเองด้วยสิ่งมึนเมาอย่างหนัก เพราะเชื่อว่าจิตใจขณะมึนเมาจะสามารถสื่อสารกับพระเจ้าและวิญญาณของผู้ตายได้ แต่ปัจจุบันมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้อยู่ในสภาวะแร้นแค้น จึงใช้วิธีการหลอกตัวเองให้มึนเมาแทนการใช้ของมึนเมา ความสามารถเช่นนี้สามารถพบได้ในพวกศิลปินอนุรักษ์นิยมผิดกฎหมาย

..ไม่ใช่สิ มันเป็นความสามารถที่บรรพบุรุษของเราเมื่อหลายร้อยปีก่อนทำได้ แต่ปัจจุบันแทบไม่พบคนที่มีความสามารถเช่นนี้”

จากนั้นเสียงบรรยายของนักพากย์ก็แทรกขึ้นมา

“การที่เราจะปักปันพื้นที่ส่วนหนึ่งให้กับมนุษย์ต่างดาวนั้น อาจจะเกิดผลกระทบต่อมวลมนุษยชาติก็เป็นได้ ดังนั้นเราจะไปฟังความเห็นของนักวิชาการกันนะครับ”

ภาพในโฮโลแกรมตัดมาที่ห้องส่ง เก้าอี้นวมดูเหมือนจะลอยอยู่กลางอากาศนั่งไว้ด้วยชายวัยกลางคน สวมสูทสีดำ เน็กไทด์สีแดง ผมรองทรงมันปลาบหวีเรียบแปล้ ใบหน้าแบนกว้างรูขุมขนใหญ่ เก้าอี้อีกตัวหนึ่งนั่งไว้ด้วยพิธีกรชายลอยมาหยุดอยู่ข้างๆ ฉากในห้องส่งเป็นจักรวาลจำลองสีน้ำเงิน ดาวพฤหัสขนาดเท่ากำมือโคจรผ่านหน้าพิธีกรไป

“คุณมีความคิดเห็นอย่างไรกับการปักปันเขตแดนให้มนุษย์ต่างดาวครับ”

“อืม...ในความคิดของผม”นักวิชาการณ์ยกขาขึ้นไขว่ห้าง “เรื่องที่อยู่ของมนุษย์ไม่ใช่ปัญหาเพราะปัจจุบัน การคุมกำเนิดมีประสิทธิภาพถึงเก้าสิบแปดจุดเจ็ดก้าวเปอร์เซ็นต์ ส่วนสิ่งก่อสร้างก็สามารถต่อเตริมให้สูงขึ้นไปได้เสมอ เรื่องความมั่นคงกระทรวงกลาโหมก็มั่นใจในแสนยานุภาพของตน”

“คุณคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรเลยหรือครับ”พิธีกรซัก

“มีครับ มีตรงที่ว่าวิถีชีวิตของมนุษย์ต่างดาวเหล่านี้ค่อนข้างล่อแหลม อาจจะมีอิทธิพลต่อการนำไปเป็นแบบอย่างของมนุษย์บางกลุ่ม”

“แล้วพฤติกรรมของมนุษย์ต่างดาวกลุ่มนี้มันล่อแหลมอย่างไรครับ”

“วิถีชีวิตของพวกเขามีพื้นฐานอยู่บนความเพ้อฝัน จากสองร้อยปีที่ผ่านมากระทรวงวิทยาศาสตร์พยายามศึกษาทดลองเกี่ยวกับสมองมนุษย์ จนสามารถคิดค้นวัคซีนระงับความเพ้อฝันออกมาได้ กฏหมายกำหนดไว้ว่าประชาชนทุกคนที่เกิดในช่วงห้าสิบปีที่ผ่านมาจะต้องได้รับวัคซีนในช่วงอายุหนึ่งถึงสองขวบ เมื่อประชากรมีความเพ้อฝันลดลง ผลที่ตามมาก็คือ ประสิทธิภาพในการทำงานและการคุมกำเนิดสูงที่สุดในประวัติกาล”

“แล้วทำไมปัญหานักอนุรักษ์นิยมผิดกฎหมายยังไม่หมดไปล่ะครับ”พิธีกรถาม พลางโน้มตัวมาข้างหน้า

“ปัญหานี้ยังหาข้อสรุปของสาเหตุไม่ได้ครับ”นักวิชาการณ์ตอบ ท่าทีอึดอัด


“ท่านผู้ชมครับ ฟังความคิดเห็นของนักวิชาการไปแล้ว คราวนี้มาฟังสัมภาษณ์จากท่านนายกรัฐมนตรีกันบ้างดีกว่าครับ”

ภาพตัดไปที่ท่านนายกรัฐมนตรีกำลังเดินออกมาจากสำนักงาน ถูกขวางหน้าด้วยหุ่นยนต์ไมโครโฟนพร้อมบันทึก รอบตัวรายล้อมด้วยสื่อมวลชน ข้างกายมีบอดี้การ์ดเป็นคนสองคนและหุ่นยนต์สองตัว ท่านเป็นชายร่างท้วม ศีรษะใหญ่ จมูกใหญ่ ปากหนา ตาตี่เล็ก สวมแว่นตาวิเคราะห์ข้อมูลซึ่งจะมีตัวหนังสือและรูปภาพปรากฎเป็นระยะๆ

“ไม่ต้องถามผมผมก็รู้ว่าพวกคุณต้องการถามอะไร ผมว่าเราควรให้โอกาสชาวดาวเคาะ แต่พวกเขาเองก็ต้องแสดงให้เป็นที่ประจักษ์ว่าพวกเขามีสมรรถภาพพอที่จะอยู่ในสังคม และเมื่อไม่นานมานี้กระทรวงกลาโหมได้ร่วมมือกับกระทรวงวิทยาศาสตร์พัฒนาหุ่นยนต์รุ่นอาร์ที820 จุดประสงค์คือเพื่อทดแทนกำลังตำรวจและทหารบางส่วน เนื่องจากทางเราต้องการแสดงสมรรถนะของอาร์ที820ให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลกเช่นกัน ดังนั้นผมจึงขอประกาศให้มีการชกระหว่าง หุ่นยนต์อาร์ที820 กับ ตัวแทนชาวดาวเคาะในอีกสามเดือนหลังจากนี้ โดยมีที่อยู่และการยอมรับการมีตัวตนของชาวดาวเคาะเป็นเดิมพัน”

ภาพตัดกลับมาที่ชุมชนชาวดาวเคาะในซากปรักหักพังอีกครั้ง

“เมื่อมนุษย์ต่างดาวทราบข่าว พวกเขาก็สามารถเฟ้นหาตัวแทนนักชกได้ภายในวันนั้น”นักพากย์บรรยาย

ตัวแทนนักชกต่างดาวมีรูปร่างสมส่วนและเลือนรางน้อยที่สุดในหมู่มนุษย์ต่างดาวทุกตน แต่ก็ยังดูผอมเกร็งเกินไปในสายตาของผม รายการเผยให้เห็นการฝึกซ้อมอย่างคร่าวๆ ไม่ว่าจะเป็น ยกก้อนหินต่างตุ้มน้ำหนัก ชกล่อเป้าโดยมีแมลงวันเป็นเป้า กระโดดแกว่งแขนยิกๆคิดว่ามีเชือกอยู่ในมือ ชกกับคู่ชกที่สร้างจากจินตนาการ เป็นต้น

“เรามาดูการฝึกซ้อมทางด้านอาร์ที820กันบ้างนะครับ”

อาร์ที820เก็บตัวอยู่ในห้องแล็บสีขาวแสงนวลตา นักวิทยาศาสตร์คอยสังเกตและบันทึกอยู่ห่างๆ การฝึกซ้อมของแอนดรอยด์สีขาวมีหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น เข้าเครื่องบิดตัวเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับโครงสร้าง กระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อเพิ่มความทนทาน บันทึกรูปแบบการชกของนักชกชื่อดังในอดีตลงในสมองกล ซ้อมชกกับคู่ชกที่เป็นหุ่นยนต์โดยไม่ต้องพึ่งคำสั่ง

“ใช้คนเป็นคู่ชกไม่ได้เพราะจะขัดกับกฎสามข้อของหุ่นยนต์” นักวิทยาศาสตร์อธิบายเพิ่มเติม “ ส่วนการชกกับนักชกต่างดาวนั้นไม่เป็นปัญหา เพราะในสายตาหุ่นยนต์ไม่ได้มองมนุษย์ต่างดาวว่าเป็นมนุษย์”

จากนั้นภาพก็ตัดมาที่ใบหน้าของพิธีกร

“ทั้งหมดที่ชมไปนี้เป็นแค่ไฮไลท์ครับ ก่อนที่จะไปชมการถ่ายทอดสดมวยคู่หยุดโลก มาฟังนักชกแต่ละคนพูดสักหน่อยดีกว่าครับ”

“เราจะสู้เพื่อการมีตัวตนของพวกเรา”นักชกต่างดาวพูดพร้อมกับกำหมัดชูขึ้น

“เจ้านายสั่งให้ผมมาชนะ”นักชกหุ่นยนต์พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ภาพตัดมาที่ฮอลล์สเตเดี้ยม ผู้ชมนั่งเต็มทุกที่นั่ง นักชกต่างดาวกำลังร้องพร้อมเต้นตามเพลงประจำดาวเคาะ พอเพลงจบ อาร์ที820ก็ยืนตรง เพลงชาติดังขึ้น ทุกคนในฮอลล์ยืนตรงเช่นกัน พอเพลงจบผู้ชมก็พากันนั่งลง นักชกต่างดาวกับอาร์ที820มายืนประจันหน้า หุ่นยนต์อาร์ที41ตัวสีทอง ตากลมโตดูเด๋อด๋ารับหน้าที่เป็นกรรมการ อธิบายกติกาอย่างคร่าวๆ เสียงระฆังยกแรกดังแก๊ง! นักชกต่างดาวกับอาร์ที820ตีนวมกันทีหนึ่งก่อนจะผละจากกันมาเต้นหาจังหวะ

นักชกต่างดาวเต้นไปรอบๆเวทีในขณะที่อาร์ที820เต้นอยู่กับที่ สิบห้าวินาทีผ่านไป นักชกต่างดาวตัดสินใจสืบเท้าเข้าไปแย็บหมัดใส่การ์ดของอาร์ที820

“ใจเย็นๆ เดี๋ยวมันก็สวนกลับหรอก”ผมเชียร์

เป็นอย่างที่ผมคิดไว้ไม่มีผิด อาร์ที820สวิงหมัดฮุคขวาออกมาอย่างรวดเร็ว โชคดีที่นักชกต่างดาวฉากหลบไปข้างหลังได้ทัน ยกขาขวาขึ้นถีบยอดอกสกัดไม่ให้นักชกหุ่นยนต์เข้ามาซ้ำเติม ผมถึงกับเผลอหัวเราะก๊ากออกมา กรรมการเข้ามาแยก เตือนและตัดคะแนนนักชกต่างดาว ผู้ชมพากันส่งเสียงโห่อย่างไม่พอใจ ดูเหมือนเสียงโห่จะมีผลทำให้สีหน้าของมนุษย์ต่างดาวแย่ สีตัวก็เริ่มเลือนรางลง

สองนาทีผ่านไปนักชกต่างดาวพยายามเต้นอยู่วงนอกและเข้าตอดเล็กตอดน้อยเก็บคะแนนเป็นระยะ หมัดตัดลำตัวของนักชกต่างดาวเก็บคะแนนไปได้ไม่น้อย แต่อาร์ที820ก็เปิดช่องให้ชกโดยไม่สะดุ้งสะเทือน พอห้าวินาก่อนจะหมดยกแรก นักชกต่างดาวโถมสุดตัวปล่อยหมัดเข้าที่ท้อง อาร์ที820ไม่ป้องกันแต่สวิงหมัดสวนกลับเข้าที่ปลายคางจังๆ ล้มลงไปนอนตัวสั่นริกๆ พยายามลุกขึ้นมาอย่างยากเย็น โชคดีที่หมดยกลงเสียก่อน ผู้ชมพากันส่งเสียงครางอย่างเสียดาย พี่เลี้ยงรีบเข้ามาลากนักชกกลับไปที่มุม สีตัวของนักชกต่างดาวเลือนรางและกระพริบ ดวงตาฉายแววขยาดระคนท้อแท้

“มันยุติธรรมตรงไหน!” ผมร้องพลางยื่นสองมือไปหาภาพโฮโลแกรม “เอาสิ่งมีชีวิต มีความรู้สึก ไปแลกกับหุ่นกระป๋องไร้ความรู้สึก”

“ความไม่เหมาะสมของพฤติกรรมอยู่ที่ หกสิบสองเปอร์เซ็นต์”ซันนี่เตือน

ผมรีบหุบปากสนิท แต่ในใจยังระอุอยู่ พี่เลี้ยงนักชกต่างดาวตบบ่าพูดอะไรสองสามประโยค ฉับพลันทันใดผมสังเกตเห็นแววตาของนักชกแปรเปลี่ยนเป็นมุ่งมัน มันทำให้ผมนิ่งอึ้งสงสัยว่าอะไรกันหนอที่เป็นแรงผลักดันให้สิ่งมีชีวิตตัวหนึ่งเดินเข้าไปรับความเจ็บปวดในยกที่สองอย่างแน่วแน่ แต่ยกนี้อาร์ที820เอาจริงผิดกับยกที่แล้ว สไตล์การชกวงนอกของนักชกต่างดาวเริ่มสับสน ถึงจะระวังคางไว้ได้แต่ก็โดนตัดลำตัวลงไปนอนจุกถึงสี่หน พอลุกขึ้นมาขาก็เริ่มเต้นไม่ค่อยออก ผู้ชมตะโกนเชียร์อาร์ที820อย่างสะใจ สิบวินาทีก่อนหมดยก สองมือผมกุมกันแน่น หยดเหงื่อไหลผ่านปลายจมูก แปดวินาทีก่อนจะหมดยกหมัดฮุคขวาของอาร์ที820ทะลายการ์ดนักชกต่างดาว ห้าวินาทีก่อนจะหมดยก นักชกต่างดาวอาศัยจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามไม่ทันวกแขนกลับมาตั้งการ์ดเสยหมัดอัปเปอร์คัตเข้าที่คางเต็มแรง ร่างของแอนดรอยด์สีขาวกระตุกและเซไปข้างหลัง คงเป็นเพราะสมองกลถูกกระทบกระเทือน สีตัวของนักชกต่างดาวเริ่มชัดขึ้น

“อย่างนี้สิลูกพ่อ!”ผมลุกขึ้นกระโดดบนโซฟา “ซ้ำมันเลย! ซ้ำเลย!”

“พฤติกรรมไม่เหมาะสมเกิน เจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์ เข้าข่ายวิกลจริต!”เสียงซันนี่ร้องเตือนเหมือนนก

“อย่า!”ผมคิดจะห้ามซันนี่ แต่มันก็ส่งวิทยุแจ้งไปเสียแล้ว หลังจากระฆังหมดยกสองดังไม่กี่วินาที เสียงโครม!ของประตูห้องผมก็ดังตามมา ชายสามคนสวมชุดปลอดเชื้อสีขาววิ่งกรูเข้ามาหาผม หน้ากากหมวกแผ่นใสๆเผยให้เห็นใบหน้าข้างในของพวกเขา แผ่นหลังโป่งนูนออกเพราะเป็นที่เก็บถังออกซิเจน

“ผมมาควบคุมตัวคุณไปยังศูนย์บำบัดผู้วิกลจริต”หนึ่งในสามคนนั้นพูดขึ้น

“เฮ้ย! เดี๋ยวก่อนซี่ ยังดูมวยคู่หยุดโลกไม่จบเลย มามะมาดูด้วยกันก่อน ถึงยังไงเดี๋ยวผมก็ต้องไปกับคุณอยู่แล้ว”ผมเชิญชวนพลางกดปุ่มขยายโซฟาเพิ่มเป็นสี่ที่นั่ง ทั้งสามคนลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะมานั่งกับผม

ระฆังยกที่สามดังขึ้น อาร์ที820เดินเข้าใส่คู่ต่อสู้ คงกะจะน็อคให้ได้ภายในยกนี้ นักชกต่างดาวทิ้งสไตล์การชกวงนอกของตัวเองเดินเข้ามาแลกหมัดเช่นกัน หมัดของทั้งสองฝ่ายรัวใส่กันตุบตับจนผมแทบมองไม่ออก ผู้ชมในฮอลล์และเจ้าหน้าที่สามคนข้างๆผมส่งเสียง เอิ้ว! เมื่อหมัดของอาร์ที820สะกิดถูกปลายคางของนักชกต่างดาวจนเดินเป๋ไปอีกทิศ แต่กระนั้นแขนนักชกต่างดาวก็ยังเหวี่ยงหมัดไม่มีหยุด หมัดถูกปลายคางของอาร์ที41ที่เป็นกรรมการเข้า สมองกลสั่นสะเทือนจนเดินเป๋ไปมาทั่วเวที เมื่อนักชกต่างดาวเรียกสติกลับมาได้ก็เดินหน้าเข้าไปแลกหมัดกับนักชกหุ่นยนต์ต่อ นักชกต่างดาวเริ่มเป็นฝ่ายถูกถลุงอย่างหนัก แต่ก็ยังเหวี่ยงหมัดโต้ตอบตามสัญชาตญาณ ภาพเหล่านี้ทำเอาผมน้ำตาคลอเบ้า อาร์ที820ทิ้งฮุคสั้นๆเข้าที่ปลายคางฝ่ายตรงข้ามตามด้วยฮุคยาวๆอีกหมัดหนึ่ง จนนักชกต่างดาวลงไปนอนกองกับพื้น เนื้อตัวของเขาสั่นเทา พยายามยันกายลุกขึ้นมาอย่างช้าๆและยากเย็น

“พอเถอะ! นายทำดีที่สุดแล้ว!”ผมร้องออกมาอย่างพลุ่งพล่าน

กรรมการนับจนถึงเก้าจึงค่อยลุกขึ้นมาได้สำเร็จ สีตัวของนักชกต่างดาวเข้มขึ้น ตั้งการ์ดแล้วเดินเข้าไปแลกหมัดต่ออีกครั้ง คราวนี้ต่างฝ่ายต่างเหวี่ยงหมัดใส่กันอย่างไม่คิดชีวิต หมัดชนหมัดบ้าง หมัดชนหน้าบ้าง คละกันไป แต่ฝ่ายหนึ่งเป็นสิ่งมีชีวิต นอกจากสู้กับคู่ต่อสู้ภายนอกแล้วก็ยังต้องสู้กับคู่ต่อสู้ภายใน เรี่ยวแรงเริ่มโรยรา ความบอบช้ำสะสมเริ่มออกอาการ หมัดของนักชกต่างดาวช้าลง อาร์ที820ซัดหมัดฮุคเข้าเต็มคาง นักชกต่างดาวเข่าอ่อนเซหลัดๆแต่ก็ยืนหยัดไม่ยอมล้ม สีตัวเข้มขึ้นอีก หุ่นยนต์นักชกตามเข้าไปซ้ำอีกหมัด นักชกต่างดาวเซถลาไปด้านข้างจนหัวเข่าแตะพื้น แต่ยืนกลับขึ้นมาได้ด้วยสองขาที่สั่นพั่บๆ สีตัวเข้มขึ้นอีก อาร์ที820ตามเข้าไปซ้ำอีกหมัด แววตาของนักชกต่างดาวแปรเปลี่ยนเป็นเคว้งคว้าง ร่างส่ายโงนเงนราวกับไม่ได้สติ แต่หมัดขวายังเหวี่ยงออกไปเป็นวงกว้าง เท่ากับเปิดช่องว่างใหญ่มากสำหรับให้ฝ่ายตรงข้ามสวนกลับ แต่ทว่าสีตัวของนักชกตอนนี้กลับชัดที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น รอยเกล็ดบางๆเด่นชัด ความเลือนรางไม่หลงเหลืออยู่อีกต่อไป

“จบแล้วสินะ” ผมทอดถอนใจ

ทว่าทันใดนั้น แทนที่อาร์ที820จะซ้ำอีกหมัด มันกลับฉากหลบไปข้างหลัง ตัวของนักชกต่างดาวล้มลงไปตามทิศของการเหวี่ยงหมัด พอร่างสัมผัสกับพื้นก็นอนคว่ำหน้าแน่นิ่งไม่ไหวติง กรรมการสั่งยุติการชก ทุกคนที่เป็นชาวโลกในฮอลล์แห่งนั้นส่งเสียงเฮสนั่น สามคนข้างๆผมก็เช่นกัน ผมเองก็โห่ร้องออกมาด้วยความพลุ่งพล่านใจ

“ต่อสู้ได้อย่างสมศักดิ์ศรีมาก เจ้าต่างดาว!”ผมร้อง

“อาร์ที820 สมรรถนะดีเยี่ยมจริงๆ”หนึ่งในสามคนข้างๆผมพูด

“ต่อสู้อย่างหนักแต่แทบไม่สึกหรอ อาร์ที820ยอดเยี่ยมมาก”อีกคนหนึ่งพูดตอบอย่างตื่นเต้น

ผมอึ้งกิมกี่แล้วหันไปสนใจที่ภาพโฮโลแกรมต่อ เสียงเชียร์อาร์ที820 ของผู้ชมยังดังกระหึ่ม พี่เลี้ยงพยุงนักชกต่างดาวลงจากเวที ขณะที่พิธีกรขึ้นเวทีไปสัมภาษณ์

“สมรรถนะคุณดีเยี่ยมจริงๆ แต่ผมและผู้ชมทุกคนอยากรู้จะแย่แล้วว่า ทำไมตอนสุดท้าย คุณถึงไม่ชกหมัดออกไป”

อาร์ที820ถอดนวมอย่างรวดเร็ว รับไมโครโฟนไปถือแล้วตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า

“วินาทีนั้นสมองกลส่วนหนึ่งของผมประมวลผลออกมาว่าเขาเป็นมนุษย์ ผมตระหนักถึงกฎสามข้อของหุ่นยนต์ จึงไม่ชกหมัดสุดท้ายออกไป”

ผู้ชมทั้งฮอลล์เงียบกริบ ริมฝีปากและคิ้วของพิธีกรกระตุก ก่อนที่จะหัวเราะกลบเกลื่อนแล้วพูดออกมา

“ขอเสียงปรบมือให้กับอาร์ที 820 อีกครั้งครับ”

เสียงปรบมือดังกระหึ่ม เสียงโห่ร้องอย่างยินดีดังสนั่น เจ้าหน้าที่ที่นั่งทางซ้ายมือของผมลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับผมว่า

“หมดเวลาแล้วครับ”

ทั้งสามคนค่อยๆควบคุมตัวผมพาเดินออกจากห้อง ผมเหลียวไปดูภาพโฮโลแกรมเป็นครั้งสุดท้าย ภาพตัดไปที่นักชกมนุษย์ต่างดาวและพี่เลี้ยงที่กำลังจะเดินออกจากฮอลล์

“และขอเสียงปรบมือให้กับ นักชกชาวดาวเคาะด้วยครับ”

จากเสียงปรบมือเกรียวกราวก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงเปาะแปะ เจ้าหน้าที่ที่เดินรั้งท้ายพูดออกมาว่า

“สุดท้ายชาวดาวเคาะก็เป็นแค่สิ่งมีชีวิตไร้ที่อยู่”

“ใครบอก” ผมหันหลังกลับไปเถียงเขา “พวกเขาอยู่ในใจผมเรียบร้อยแล้ว และผมก็รู้ว่าคนอย่างพวกคุณไม่มีวันเข้าใจสิ่งที่ผมพูดหรอก”

แล้วผมก็ถูกนำตัวออกจากห้อง พร้อมๆกับนักชกต่างดาวที่ถูกพยุงออกจากฮอลล์ไป

3 ความคิดเห็น:

  1. แหม....เอางานชิ่้นเอกลงเลยนะ

    เมื่อไรจะมีงานใหม่ละ

    ดูแลตัวเองด้วยนะ ดูแลกาย ดูแลใจ

    ตอบลบ
  2. มึนแมนว่าไม่ได้ตั้งใจให้เป็นเรื่องสั้นในดวงใน
    แต่คงตั้งใจเขียนเรื่องสั้นในดวงใจเลยกลายมาเป็นเรื่องสั้นในดวงใจ
    มันมักจะเป็นอย่างนั้นเนอะ
    ก่อนเขียนบอกอะไรไม่ได้
    แต่เขียนออกมาแล้ว..บอกได้
    เนอะ

    ฉะนั้นเขียนต่อไปอาจมีเรื่องสั้นในของในของในของในดวงใจอีกหลายๆเรื่องเลย..

    สวัสดีน้องมึนแมนแดน(ดาว)เคาะ
    ^^

    ตอบลบ